ภาษิตอีสานสู่จินตนาการชีวิต
การสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรม ลักษณะ Fantasy Style ชุด ภาษิตอีสานสู่จินตนาการชีวิต โดย เกรียงไกร กุลพันธ์ ศิลปินได้นำเอาแนวคิด คติธรรมจากสุภาษิตอีสาน ที่มีจินตนาการ สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของชีวิต ความสมดุลของธรรมชาติ การสมมุติให้สิ่งต่างๆดูเหมือนมีจิตวิญญาณ มีชีวิต มีความสัมพันธ์ขาดกันไม่ได้ ซึ่งเป็นคำพูดที่นักปราชญ์โบราณได้กล่าวไว้ มีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ ให้ข้อคิดเป็นคติเตือนใจ โดยศิลปินได้แทนค่าความหมายในเชิงสัญลักษณ์ (Symbolic) และสื่อแทน (Representation) เพื่อส่งเสริมเนื้อหาและกระตุ้นให้ผู้ชมได้ตีความตามจินตนาการ ได้เรียนรู้วิถีแห่งธรรมชาติ อันเป็นตัวสานให้เกิดความเข้าใจในการดำรงชีวิต เป็นทัศนะที่สะท้อนความรู้สึกจากสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อมรอบตัว ซึ่งเกรียงไกรได้นำมาผสมผสานกันกับเรื่องราวในปัจจุบัน โดยสื่อผ่านผลงานจิตรกรรมกับเทคนิคที่ซับซ้อนอันเป็นรูปแบบเฉพาะตัว
ด้วยความที่ศิลปินเติบโตในภาคอีสานได้เรียนรู้จากประเพณี 12 เดือน ของชาวอีสานหรือที่เรียกว่า ฮีตสิบสอง คองสิบสี่ ที่คนโบราณรู้คุณค่าของธรรมชาติ ดิน น้ำ ฟ้า ผืนป่า ต้นไม้ เห็นประโยชน์ของธรรมชาติ ซึ่งความรู้ ความเข้าใจเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจในการแต่งเป็นวรรณกรรมคำสอน สอดแทรกกุศโลบายต่างๆ เป็นตัวสานที่ถ่ายทอดให้เกิดความเชื่อ ความเข้าใจในการที่จะดำรงชีวิต อยู่กับธรรมชาติ อยู่อย่างเกื้อหนุนกัน วรรณกรรมคำสอน หรือ สุภาษิตอีสาน เป็นหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่ามีความเจริญในด้านศิลปะวัฒนธรรม ซึ่งภาษิตอีสานนี้สามารถแบ่งได้เป็นหลายประเภท อาทิ คำกลอนภาษิต , ผะหญาภาษิต , สอย , หนังสือเจียง , กาพย์กลอน
"มนุษย์กับธรรมชาติเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันไม่อาจแยกออกจากกันได้ ร่างกายประกอบกับธาตุทั้ง 4 ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม และธาตุไฟ เหมือนกับพืชและสัตว์อื่นๆ รูปกายมนุษย์นี้ดำรงอยู่ได้โดยการแลกเปลี่ยน แร่ธาตุ กับสิ่งแวดล้อม ในขบวนการกิน ดื่ม ขับถ่าย หายใจออกและหายใจเข้า ดังนั้นมนุษย์กับธรรมชาติแวดล้อม จึงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ตั้งแต่อดีตกาล มนุษย์ตระหนักในความสำคัญของความรู้ แสวงหา สร้างสรรค์ปัจจัยดำรงชีพและการดำเนินกิจกรรมสังคม มนุษย์พยายามเข้าใจธรรมชาติ เรียนรู้และหาวิธีที่จะอาศัยอยู่รวมกับธรรมชาติ แล้วถ่ายทอด เผยแผ่ความรู้ ความเข้าใจผ่านคติความเชื่อ วรรณคดีพื้นถิ่น ที่เป็นเหมือนกุศโลบายให้มนุษย์ ผู้พึ่งพาธรรมชาติ เกรงกลัวธรรมชาติ เกรงกลัวต่อเทพผู้ปกปักรักษาพื้นที่นั้นๆเคารพและให้เกียรติต่อธรรมชาติ ธรรมชาติจึงมีความอุดมสมบูรณ์มาจนถึงทุกปัจจุบัน"...เกรียงไกร
จากคติ แนวคิด ที่มาดังกล่าวเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงานของเกรียงไกร โดยศิลปินได้นำเรื่องราว เนื้อหาจากภาษิตอีสาน เลือกเอาหมวดที่มีความหมายสอดคล้อง มีปฏิสัมพันธ์กับบทบาทในชีวิตประจำวัน ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเกิดผลสะท้อนต่อชีวิตและจิตใจ อันมีความเกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตของมนุษย์มานำเสอ อาทิ ภาษิตจากวรรณกรรมประเภท "ผะหญา"(เป็นคำนามแปลว่าปัญญา ปรัชญา ความฉลาด เป็นคำพูดที่มีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ ให้ข้อคิดเป็นคติเตือนใจซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้นำไปปฎิบัติ) เช่น “เสือได้กินเนื้อเพื่อป่าไม้มีหนาม ไม้งามเพื่อมีเสืออยู่” หมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ต้องพึ่งพาอาศัยกัน เช่น เสือก็อาศัยป่า ป่าก็อาศัยเสือ เสือได้กินเนื้อเพราะมีป่า ป่าไม้ไม่ถูกทำลายเพราะคนกลัวเสือ...
*หมายเหตุ ชื่องาน ขนาด เทคนิค จะตามลงให้ในภายหลัง*
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น