“อดีตใหม่”
Marshall McLuhan (1911-80) กล่าวว่าสื่อจะเปลี่ยนโลกทั้งใบ ภาพถ่ายเป็นสื่ออีกตัวหนึ่งที่ McLuhan อธิบายว่า ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกอย่างมากมาย เช่น วิชาพฤกษศาสตร์จะไม่เจริญก้าวหน้าถ้าไม่มีกล้องถ่ายรูป, ห้างสรรพสินค้าจะไม่เกิดขึ้นถ้าไม่มีภาพถ่าย เจ้าของสินค้าต่างโฆษณาสินค้าของตัวเองในหน้าหนังสือพิมพ์ เราสามารถรับรู้ข้อมูลของสินค้าหลากหลายชนิดได้ใหนังสือพิมพ์ฉบับเดียว คนเราก็เริ่มคิดต่อว่า คงจะดีไม่น้อยถ้าเราสามารถหาซื้อสินค้าได้ภายใต้ร่มหลังคาเดียวกัน ห้างสรรพสินค้าจึงได้ถือกำเนิดขึ้น, เกมส์ฟุตบอลจะไม่เปลี่ยนอย่างชนิดเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือถ้าประธานาธิบดี Teddy Roosevelt ไม่ได้เห็นภาพข่าวของผู้เล่นทีม Swarthmore ที่ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงในปี 1905 Roosevelt กล่าวว่าถ้าเกมส์ที่หยาบคายยังคงดำเนินต่อไป เขาจะสั่งห้ามเล่นฟุตบอลในสหรัฐอเมริกา, และคนชั้นสูงเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย เมื่อภาพถ่ายของพวกเขากำลังทำกิจกรรมที่ทำเฉพาะชนชั้นสูง ถูกตีพิมพ์บนหน้าหนังสือพิมพ์ จากตัวอย่างข้างต้น ภาพถ่ายส่งเสริมความเจริญก้าวหน้าทางวิชาการ ภายถ่ายทำให้เกิดสถานที่แบบใหม่ที่ทำให้ชีวิตประจำวันง่ายขึ้น ภาพถ่ายเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนในวงการฟุตบอล ภาพถ่ายทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว เนื่องจากมันเป็นหลักฐานที่สามารถนำเสนอกิจกรรมในอดีต ให้ปรากฏในเวลาปัจจุบัน อาจกล่าวได้ว่า ภาพถ่ายเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ และความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสังคม
ภาพถ่ายทำใหสิ่งที่เรียกว่า“อดีต”คมชัดตลอดไป อยากให้ลองจินตนาการว่า ถ้าเราไม่เคยมีรูปถ่ายของตัวเองพร้อมกับครอบครัวในวัยเด็กเลยแม้แต่ใบเดียว เราพึ่งเพียงแต่อวัยวะของเราที่เก็บความทรงจำเอาไว้ เราอาจจะจำบางอย่างตั้งแต่อายุ 4 ขวบขึ้นไปได้และก่อนหน้านั้นเล่ามันเป็นอย่างไร เราจะจำได้ไหมว่าหน้าตาก่อน 4 ขวบของเราเป็นอย่างไร ตัวเล็กแค่ไหน ใส่เสื้อผ้าแบบไหน แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าความทรงจำของเราเหนื่อยล้า อายุเพิ่มมากขึ้น มันจะยังจดจำสิ่งต่างๆได้เที่ยงตรงเหมือนเดิมหรือไม่ การมาของภาพถ่ายเปลี่ยนวิธีการรับรู้ที่เรามีต่ออดีตของเราอย่างสิ้นเชิง ภาพของเราตอนแรกเกิดสภาพแวดล้อมภาพพ่อแม่และญาติๆในวัยหนุ่มสาวกลายเป็นความทรงจำใหม่ของเรา เราไม่ได้จำได้จริงๆ แต่ภาพที่เราเห็นจากภาพถ่ายทำให้เราเชื่อว่าเราจำได้ อาจจะกล่าวได้ว่าอดีตของเราเป็นส่วนผสมระหว่างสิ่งที่เราจำได้จริงๆกับอดีตที่ได้จากภาพถ่าย
ภาพถ่ายมีคุณอนันต์กับรณชัยเป็นอย่างมาก จิตรกรรมของรณชัยว่าด้วยเรื่องอดีต ความสามารถในการจำได้ในปัจจุบัน และอนาคตที่อยากจะจดจำ รณชัยไม่สบายและมีผลข้างเคียง คือการสูญเสียความทรงจำในช่วงเวลาบางขณะ รณชัยเล่าให้ฟังว่า ภาพถ่ายช่วย “เรียก” ความทรงจำทำให้ภาพของเหตุการณ์อดีตกลับมามีชีวิตอีกคครั้ง ภาพถ่ายช่วยทำให้เขาต่อจิ๊กซอประสบการณ์ให้ได้ภาพที่สมบูรณ์ ที่เขาคิดว่าใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด
รณชัยเลือกภาพถ่ายในอดีตของตัวเองมาเป็นต้นแบบ เขาคัดลอกเพียงบางส่วนเพื่อที่จะบอกว่าเขาจำมันได้ บางส่วนที่จำไม่ได้เขาเว้นเอาไว้แล้วใส่บางสิ่งบางอย่างที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่อยากจะจดจำมาแทน เช่น ความฝัน ความหวัง และจินตนาการ ภาพจิตรกรรมของรณชัยจึงเป็นเสมือนภาพของเหตุการณ์หลายๆเหตุการณ์มีลักษณะต่างสถานที่ ต่างเวลา และต่างมิติ เพราะฉะนั้นภาพถ่ายทำหน้าที่มากกว่าภาพบันทึก ภาพถ่ายได้พาศิลปินกลับเข้าไปในอดีตของตัวเองอีกครั้ง แม้ว่ารณชัยจะไม่มีเครื่องมือใดๆบอกว่า อดีตที่เขาจำได้จากภาพถ่ายเป็นอดีตที่ถูกต้องทั้งหมดหรือไม่ก็ตาม มันเป็นอดีตใหม่ที่รณชัยก่อร่างขึ้นมาโดยการระบายสี อดีตที่เราเห็นบนงานจิตรกรรมกลายเป็นหนทางสู่โลกใหม่ในอนาคตสำหรับรณชัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น